Function Disabled!

วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556


 
                                                 ทดสอบกลางภาคเรียน
    คำชี้แจง
ให้นักศึกษาอ่านแล้วตอบคำถามดังต่อไปนี้
ทำลงในบล็อกของนักศึกษาเขียนหัวข้อเหมือนอาจารย์ (100 คะแนน)

1.   กฎหมายคืออะไร จงอธิบาย และการบังคับใช้กฎหมายจะต้องเป็นไปด้วยความเสมอภาคโดยไม่เลือกปฏิบัติหมายความว่าอย่างไร
      ตอบ  กฎหมาย หมายถึง กฏแห่งความประพฤติของมนุษย์ในสังคม ซึ่งทำหน้าที่ควบคุม      ความประพฤติของมนุษย์ และเป็นบรรทัดฐานความประพฤติสำหรับมนุษย์รุ่นต่อๆไป ในอันที่จะต้องปฏิบัติตาม
      มาตรา 30  การบังคับใช้กฎหมายจะต้องเป็นไปด้วยความเสมอภาคโดยไม่เลือกปฏิบัติหมายความว่าทุกคนจะมีความเสมอภาคกันและได้รับการคุ้มตามกฏหมายเท่าเทียมกันทุกคน ไม่เว้นแม้แต่เพศ เชื้อชาติ หรือความพิการ ซึ่งบุคคลที่กล่าวถึงนี้จะได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
2. การที่กฎหมายกำหนดให้ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผูู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ทั้งของรัีฐ และเอกชน จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ท่านเห็นด้วยหรือไม่เพราะอะไร จงให้เหตุผลประกอบ
        ตอบ     เห็นด้วย   เพราะ ใบประกอบวิชาชีพครูเป็นตัวชี้ให้เห็นว่า บุคคลนั้นมีศักยภาพในการทำงานนั้นๆได้และยังชี้ให้เห็นว่าได้ผ่านมาตรฐานเดียวกันตามที่กระทรวงกำหนด จึงสามารถทำงานได้ ถ้าไม่มีก็ไม่สามารถทำงานนั้นได้ซึ่งมันยุติธรรม ต่อผู้ประกอบวิชาชีพ
3.ท่านมีแนวทางในการระดมทุน และทรัพยากรเพื่อการศึกษาในท้องถิ่นของท่านอย่างไรบ้าง อธิบายยกตัวอย่าง
ตอบ พรบ การศึกษาแห่งชาติได้กำหนดให้มีสาระท้องถิ่นที่สถานศึกษาต้องบรรจุในหลักสูตรโรงเรียนด้วย ดังนั้น เราสามารเชิญปราชญ์ชาวบ้านมาให้ความรู้ในเรื่องนั้นในสถานศึกษาได้ หรือจัดทำเป็นศูนย์การเรียนรู้นอกห้องเรียน เป็นการให้นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องใกล้ตัวและสามารถประกอบอาชีพได้ในภายภาคหน้า เป็นการประหยัดงบประมาณและในทรัพยากรที่มีในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด
4. รูปแบบการจัดการศึกษามีกี่รูปแบบอะไรบ้าง และการศึกษาในระบบมีกี่ระดับประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ  การศึกษามี 3 รูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย  การศึกษาในระบบมี  2  ระดับ คือ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ม1- 6  และการศึกษาระดับ
อุดมศึกษา ปริญาตรี

5. ท่านเข้าใจการศึกษาภาคบังคับและการศึกษาขั้นพื้นฐานเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร อธิบายยกตัวอย่างประกอบ
         ตอบ ควาแตกต่างของการศึกษา ภาคบังคับและการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ การศึกษาภาคบังคับนั้นกฏหมายบังคับ แค่ 9 ปี จาก ป1 – 3 ถ้าเด็กคนใดมีอายุถึงเกณฑ์แล้วคือ 7 ปี แต่ยังไม่ได้เข้ารับการศึกษานั้นเป็นการผิดกฏหมาย ผู้ปกครองจะต้องถูกปรับตามที่กฏหมายกำหนด และการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้น คือ จาก ม4 – 6 เมื่อเด็กจบการศึกษาภาคบังคับแล้วจะเรียนต่อหรือไม่ก็ได้ หรือจะเรียนสายอาชีวก็ได้ ซึ่งไม่ผิดกฏหมาย แต่คนที่ไม่เรียนต่อนั้นจะไม่จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน

6. การแบ่งส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2553 มีการแบ่งส่วนราชการเป็นอย่างไร และมีใครเป็นหัวหน้าส่วนราชการดังกล่าว อธิบายยกตัวอย่าง
           ตอบ   การแบ่งส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ มีระดับการบริหารงานดังนี้ คือ สำนักงานรัฐมนตรี  สำนักงานปลัดกระทรวง  สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามลำดับ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และผลสัมฤทธ์ของกระทรวง

7. จงบอกเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546
         ตอบ  เนื่องจากครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการจัดการศึกษาของชาติมากที่สุด  ดังนั้น จึงต้องมีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบวิชาชีพ ตลอดจนมีคุณธรรม  จริยธรรมและประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพและเป็นตัวอย่างที่ดีต่อบุคคลอื่น รวมทั้งมีคุณภาพและมาตรฐาน  เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง จึงจำเป็นต้องตรากฎหมาย และสามารถปฏบัตินให้อยู่ในระเบียบของกฏหมาย

8. ท่านเข้าใจหรือไม่ว่า ถ้ามีบุคลากรไปให้ความรู้หรือสอนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นครั้งคราว หรือไปสอนเป็นประจำ  หากพิจารณาจากพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 กระทำผิดตาม พรบ.นี้หรือไม่เพราะเหตุใด
         ตอบ    ไม่ได้กระทำผิดต่อกฏหมาย เพราะในมาตราที่ 43 ระบุว่า ผู้ที่เข้ามาให้ความรู้แก่ผู้เรียนในสถานศึกษาเป็นครั้งคราวในฐานะวิทยากรพิเศษทางการศึกษา หรือทางสถานศึกษาเชิญมาสอนชั่วคราว ไม่จำเป็นที่จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพก็ได้

9.ท่านเข้าใจความหมายโทษทางวินัย สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อย่างไร อธิบาย และโทษทางวินัยมีกี่สถาน อะไรบ้าง
       ตอบ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โทษทางวินัยต่อเมื่อบุคคลนั้นทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครู ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากบุคคลดังกล่าวที่ได้รับใบอนุญาตสามาถแจ้งเรื่องต่อคุรุสภาได้ ภายใน 1 ปีที่รู้ มิฉะนั้นความผิดของผู้กระทำผิดจะสิ้นสุดลง
 โทษทางวินัยมี  5 สถาน ได้แก่ 
           1. ยกข้อกล่าวหา
           2. ตักเตือน
          3. ภาคทัณฑ์
          4. พักใช้ใบอนุญาตมีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควร แต่ไม่เกินห้าปี
         5. เพิกถอนใบอนุญาต

10.ท่านเข้าใจคำว่า เด็ก เด็กเร่ร่อน เด็กกำพร้า เด็กที่อยู่ในสภาพลำบาก เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด ทารุณกรรม ที่สอดคล้องกับ พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 อย่างไรจงอธิบาย ตามความเข้าของท่าน
        ตอบ   เด็กเหล่านี้จะได้รับการคุ้มครองตามกฏหมายด้วยเช่นกัน โดยถ้าเด็กที่ไม่มีผู้ปกครอง มีสภาพลำบาก หรือ ถูกทารุณกรรม เด็กจะต้องได้รับการดูแลจากสถานสงเคราะห์ และได้รับการศึกษาหมือนเด็กปกติ

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น